เมื่อแพ้สงคราม! “คนกลุ่มนี้” ซวยที่สุด ถึงไม่ตายก็ถูกกระทำเยี่ยง “สิ่งของ”


เมื่อแพ้สงคราม! “คนกลุ่มนี้” ซวยที่สุด ถึงไม่ตายก็ถูกกระทำเยี่ยง “สิ่งของ”


 

ในประวัติศาสตร์จีนมีสาวงามมากมาย บางคนโชคดี แต่บางคนก็ทุกข์ทรมาน แล้วความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ วันนี้พวกเรามาดูสิ่งที่สาวงามเหล่านี้ต้องพบเจอในสถานการณ์จริงกันเลย

 

ตั้งแต่สมัยโบราณ สงครามเป็นภัยพิบัติที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ สำหรับผู้ชายแล้วมันคือชัยชนะ ความพ่ายแพ้ หรือความตาย แล้วสำหรับผู้หญิงล่ะ? สำหรับฝ่ายแพ้สงคราม ผู้ชายจะกลายเป็นเชลย อย่างมากก็แค่คนรับใช้ แต่ผู้หญิงจะกลายเป็นของรางวัลที่ถูกส่งมอบ เป็นผู้ถูกกระทำที่โชคร้ายที่สุด ถ้าเป็นฝ่ายชนะสงคราม รางวัลจะถูกส่งมอบมาถึงผู้หญิงมั้ย? ไม่! เธอก็ยังคงเป็นรางวัลเหมือนเดิม เพียงแต่เธอจะกลายเป็นรางวัลสำหรับคนฝ่ายเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าแพ้หรือชนะ ผู้หญิงก็เป็นได้เพียงแค่รางวัลเท่านั้น ดูจากประวัติศาสตร์ก็จะเห็นว่า การที่ผู้หญิงงามตกเป็นเชลยมันแย่แค่ไหน



 

อย่างแรกเลยก็คือเชลยผู้หญิงจะโดนข่มเหงแล้วฆ่า เริ่มตั้งแต่ 2,000 ปีก่อน กฏของมนุษย์ก็คือผู้ชนะทำได้ทุกอย่าง ผู้อ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแรงกว่า เป็นขอเท็จจริงที่ไม่มีอารยธรรมใดมาโต้เถียงได้ ตั้งแต่ปี 1864 ทั่วโลกต่างพากันพูดถึง 「สนธิสัญญาเจนีวา」 ซึ่งเขียนอย่างชัดเจนว่า : 「ไม่อนุญาตให้ทำความรุนแรงต่อชาวบ้านผู้บริสุทธิ์」 ศตวรรษที่ผ่านมายังมีกฎห้ามทำร้ายผู้หญิงและเด็ก กล่าวว่า: 「ต้องพยายามหาวิธีที่จะไม่ทำให้ผู้หญิงและเด็กไม่ได้รับอันตราย โดยเฉพาะชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นการกระทำทุกอย่างที่ทำร้ายผู้หญิงและเด็กถือเป็นความผิด ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆก็ไม่มีข้อยกเว้น」

ฟังแล้วยังไงก็ดูเป็นข้อความไร้สาระ เพราะเวลาเกิดสงครามขึ้นจริง ใครจะยังมาสนใจความเป็นไปของชาวบ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่ต้องพูดถึงเด็กและผู้หญิงว่าจะขนาดไหน ชาวบ้านก็ทำได้แค่ยอมรับชะตากรรม ไม่รู้ว่าจะไปโทษใคร เหมือนมีประโยคหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า : 「ยอมเป็นสุนัขในเวลาที่บ้านเมืองสงบสุข ดีกว่าเป็นมนุษย์เมื่อบ้านเมืองเกิดจลาจล」 ประโยคนี้พูดความจริง เพราะเมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น เด็กและผู้หญิงก็กลายเป็นจุดอ่อนสำหรับการโจมตี โดยเฉพาะผู้หญิงที่ส่วนใหญ่จะโดนข่มเหงแล้วฆ่า

 



เช่นสงครามที่มีชื่อเสียงฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน 「เหตุการณ์จิ้งคัง」 สมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ทัพจินเข้าล้อมเมืองหลวง นางสนม เจ้าหญิง สตรีชั้นสูงนับหมื่นถูกจับตัวไป แล้วก็โดนทหารทัพจินกระทำอย่างที่มนุษย์ไม่สมควรโดน โดนข่มขืนและฆ่าอย่างน่าอนาถ แล้วสุดท้ายราชวงศ์ซ่งเหนือก็ถูกทัพจินตีจนแตก นางสนมและผู้หญิงอีกเกือบ 6,000 คนก็ถูกจับตัวไป

 

 

ตามบันทึกประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น ผู้หญิงถูกจับไปเป็นเชลยเป็นหมื่นคน ครึ่งหนึ่งถูกทารุณกรรมและฆ่าตรงนั้น ที่เหลือถูกส่งไปยังค่ายทหารทำหน้าที่เป็นโสเภณี โดนข่มขืนทั้งวันทั้งคืน ซึ่งรวมไปถึงนางสนมและองค์หญิงมากมายด้วย ในหนังสือเขียนไว้ว่า : สาวชั้นสูงและองค์หญิงทั้งหลายไม่มีแม้แต่เสื้อจะใส่ มีเพียงแผ่นหนังแพะห่อหุ้มร่างกายเท่านั้น

 

และยังมีอีกกลุ่มที่ถูกส่งเป็นบรรณาการ ในประวัติศาสตร์ สงครามอันโหดร้ายผู้หญิงเปรียบเสมือนของเล่น ตกเป็นทาสของการทารุณกรรมทางเพศ และแน่นอนว่าผู้หญิงที่หน้าตาดีหน่อยก็จะถูกส่งไปให้เจ้านายชั้นสูง หรือกลายเป็นของขวัญที่เพื่อนมอบให้เพื่อน ถึงตอนนั้นผู้หญิงก็เหมือนไม่ใช่คน แต่เป็นเพียงเหยื่อ เป็นเพียงบรรณาการเท่านั้น



ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คือ ไช่เหวินจี หลังจากสามีของเธอเสียชีวิต เธอก็ตกเป็นม่าย แล้วก็เกิดเหตุการณ์บ้านเมืองถูกรุกราน นางถูกจับไปเป็นเชลยแล้วก็ถูกส่งมอบให้ทหารชั้นสูง แล้วสุดท้ายก็โดนไถ่ตัวกลับสู่มาตุภูมิ กรณีของไช่เหวินจีถือว่าโชคดีมากแล้ว เพราะผู้หญิงส่วนมากเมื่อถูกจับไปเป็นเชลยแล้วชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้เห็นแสงสว่างอีกเลย

 

บางครั้งหญิงชั้นสูงก็ไม่ต่างจากหญิงชาวบ้านธรรมดา เพราะล้วนถูกครอบครอง ดังที่เจงกิสข่านเขียนไว้อย่างไร้ยางอายว่า : เขาชอบแย่งของของคนอื่น ชอบยึดครองที่ดินคนอื่น ครอบครองผู้หญิงของคนอื่น… จากบันทึกเก่าแก่นี้จะเห็นถึงแนวความคิดที่แปลกประหลาดและยากจะกำจัดออกไป ผู้หญิงเป็นสิ่งที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าอยากให้ผู้ชายคนหนึ่งสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ก็ต้องทำให้เขาหมดสิ้นความมั่นใจ และวิธีง่ายๆก็คือการครอบครองภรรยาของเขา



อีกตัวอย่างที่มีชื่อเสียงคือจักรพรรดิซ่งไท่จง ที่บีบบังคับเสี่ยวโจวโฮ่ว ตอนแรกเสี่ยวโจวโฮ่วไม่ยอม แต่ซ่งไท่จงก็ใช้กำลังบีบบังคับ ทำให้ร่างกายและจิตใจของเธอโดนทำร้ายอย่างรุนแรง ซ่งไท่จงไร้ซึ่งความรู้สึกผิด ยังวาดรูปออกมา แล้วอธิบายว่า 「ไท่จงรูปไม่หล่อ ตัวดำ แถมอ้วน เสี่ยวโจวโฮ่วผอมบาง เมื่อถูกจับมัด โจวโฮ่วก็ขมวดคิ้วแสดงสีหน้าไม่พอใจ…」 หลี่ยู่เกลี่ยดสิ่งที่เห็น เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่จะทำอะไรได้?

 

กลายเป็นผู้แพ้ยังสามารถทำอะไรได้อีก? ทุกคนล้วนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ยังต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ปกป้องไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกข์ทรมานที่สุด

 

ในประวัติศาสตร์ เปลี่ยบแปลงราชวงศ์นับครั้งไม่ถ้วน แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือตำแหน่งในสังคมของผู้หญิง เธอถูกจัดให้เป็นเครื่องบรรณาการตลอกเวลา เมื่อรบแพ้หายนะก็มาเยือน โดนจับไปข่มขืนแล้วฆ่า ถ้าไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น ผู้หญิงต้องเกิดมาเพื่อรับความไม่ยุติธรรมอย่างนี้หรอ? ต้องเป็นทาสรับใช้ผู้ชายตลอดไป? ไม่ใช่หรอก ผู้หญิงก็มีสิทธิ เราต้องควมคุมชีวิตเราด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ทำตัวเป็นของขวัญของใคร



ในอดีตผู้หญิงต้องแบกรับความผิดที่ตนไม่ได้ก่อ ดีที่ปัจจุบันนี้โลกก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ตำแหน่งของผู้หญิงในสังคมสูงขึ้นเรื่อยๆ จะเหลือก็เพียงแค่ความคิดเดียวที่ว่าผู้หญิงต้องเดินตามผู้ชาย จริงๆแล้วไม่ใช่ ทุกคนมีอิสรภาพ ผู้หญิงถ้าคิดจะทำอะไรก็ทำไปเลย คุณมีชีวิตของตนเอง!

ที่มา liekr

ไม่มีความคิดเห็น :

ขับเคลื่อนโดย Blogger.