ทหารเจอ “สุนัข” ในสนามรบ อยากพากลับบ้านแต่หน่วยงานห้ามสัตว์ขึ้นเครื่อง คิดไม่ถึงว่าเขาจะ!?


ทหารเจอ “สุนัข” ในสนามรบ อยากพากลับบ้านแต่หน่วยงานห้ามสัตว์ขึ้นเครื่อง คิดไม่ถึงว่าเขาจะ!?


ทหารเจอ “สุนัข” ในสนามรบ อยากพากลับบ้านแต่หน่วยงานห้ามสัตว์ขึ้นเครื่อง คิดไม่ถึงว่าเขาจะ..!?

สนามรบอาจจะเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตของใครหลาย ๆ คนต้องจบลงที่นั่น แต่บางครั้งมันก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพดี ๆ ที่คุณคิดไม่ถึงเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของนาย Craig Grossi นาวิกโยธินของสหรัฐที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในเมืองเฮลมานด์ ประเทศอัฟกานิสถาน ครั้งหนึ่งระหว่างประจำการ ในช่วงกลางคืนของเดือนตุลาคมปี 2009 ด้วยเฮลิคอปเตอร์ และรุ่งเช้ามาพวกเขากลับถูกกลุ่มตาลีบันเข้าโจมตี



เมื่อการต่อสู้เริ่มซาลง นาย Grossi ก็สังเกตเห็นว่าในบริเวณนั้นมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนอยู่ ซึ่งไม่ได้เรื่องปกติของที่นั่น เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มและแสดงท่าทางดุร้ายใส่ผู้คน แต่กับเจ้าตัวนี้ดูจะนิ่งสงบมากกว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้อาศัยหลบนอนอยู่ตามพุ่มไม้และคุ้ยเขี่ยหาอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ กิน ไร้เจ้านาย เนื้อตัวสกปรกเต็มไปด้วยเห็บหมัด แต่ถึงจะรู้สึกสงสารมันอย่างไรก็ตาม ในหน่วยของเขามีกฎอยู่ว่าห้ามเข้าใกล้สุนัข



แต่ใช่ว่านาย Grossi จะปฏิบัติตามกฎเสมอไป เพราะเขาได้หยิบเอาขนมหมาติดมือไปยื่นให้กับมัน พอมันเห็นก็แกว่งหางไปมาและเข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร นาวิกโยธินหนุ่มมองเห็นความน่ารักสดใสในสุนัขตัวนี้ จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าในเมื่อมันน่ารักขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนใจดูแลมันเลยแม้แต่คนเดียว? “ผมเกาที่หลังหูของมัน และผมไม่อยากจะเชื่อเลย“ นาย Grossi เล่าถึงช่วงเวลาที่ทำให้เขาตกหลุมรักมัน เขาเลยตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Fred ที่คล้ายกับคำว่า Friend (เพื่อน)



ทหารหนุ่มเล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาการทำสงครามว่า กลุ่มตาลีบันจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกทหารอเมริกันโจมตีโดยตรง ทำให้กลุ่มนาวิกโยธินต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีใส่ชาวบ้าน ตกกลางคืนกลุ่มทหารก็จะออกสำรวจตามบ้านเรือนเพื่อดูว่าสงบเรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเจ้า Fred เห็นว่านาย Grossi ออกไปในเดินตามหมู่บ้าน มันก็จะรีบเดินตามเขามาทันที



การที่มีสุนัขตามกลุ่มทหารอเมริกันออกไปในยามค่ำคืนไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ เพราะหากมันส่งเสียงเห่าแม้แต่นิดเดียวก็อาจพาให้ทหารทั้งหน่วยถูกโจมตีจนเสียชีวิตได้ แต่เจ้า Fred รู้หน้าที่ดีว่าต้องทำตัวให้เงียบเข้าไว้ มันจึงไม่ได้ส่งเสียงออกมาสักแอะ



วันหนึ่งหน่วยของเขาก็ได้เวลาที่จะกลับออกจากพื้นที่สงครามเพื่อไปพักผ่อนที่บ้าน นาวิกโยธินหนุ่มได้ก้มลงพูดคุยกับสุนัขแสนรู้ว่าพวกเขาควรจะทำยังไงต่อไปดี เพราะหน่วยของเขามีกฎห้ามพาสุนัขขึ้นเครื่องบินไปด้วย หากถูกจับได้จะต้องถูกดำเนินคดีกับศาลทหาร “ผมนั่งลงข้าง ๆ Fred พยายามคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี ผมคุยกับมัน ถ้าแกอยากจะไปด้วยกันก็ส่งสัญญาณมาหน่อย“ นาย Grossi กล่าว



วันรุ่งขึ้นเมื่อเฮลิคอปเตอร์มาถึง เจ้า Fred ก็รีบมาหานาย Grossi เพื่อบอกว่ามันอยากจะไปกับเขาด้วย เขาเลยแอบพามันโหลดไว้ใต้เครื่องรวมกับอุปกรณ์สงครามของทหาร และโชคดีมากที่ไม่มีใครรู้เรื่องสุนัขตัวนี้เลย



เมื่อเฮลิคอปเตอร์ที่พวกเขานั่งออกจากสนามรบเดินทางมาถึงฐานบัญชาการด้านนอกแล้ว นาย Grossi ก็รีบจัดแจงขนเจ้า Fred ออกมาแล้วนำไปให้กับ DHL บริษัทขนส่งเพื่อส่งมันไปยังบ้านพ่อแม่ของเขาในเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ส่วนตัวของเขายังคงต้องทำหน้าที่อยู่ในอัฟกานิสถานต่อไป

 

3 เดือนให้หลัง นาย Grossi ก็ได้กลับมาที่บ้านแล้วมาเจอเจ้า Fred อีกครั้ง จากนั้นเขาก็ตัดสินใจขับรถออกไปเที่ยวกับเพื่อนสี่ขาของเขาเป็นเวลา 8 สัปดาห์ เพื่อให้เพื่อนของเขาได้มองเห็นโลกที่ไม่มีสงครามบ้าง



 

นี่คือภาพของ Fred และ Grossi ในปัจจุบัน ทั้งคู่มีความสุขดีไม่ต้องห่วงเรื่องสงครามอีกแล้ว



ตอนนี้นาย Grossi ได้ได้สร้างบัญชีอิสตาแกรม @fredtheafghan ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาในแต่ละวันด้วย ใครสนใจลองไปกดติดตามกันดูได้นะ

ที่มา liekr

ไม่มีความคิดเห็น :

ขับเคลื่อนโดย Blogger.